เขตโขงนคร: กลไกความร่วมมือยกระดับพื้นที่แห่งการเรียนรู้และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (In Thai)

นครพนม เมืองที่มีเสน่ห์ด้านวัฒนธรรมและธรรมชาติ มีศักยภาพสูงด้านการท่องเที่ยว–ทรัพยากรธรรมชาติ–วัฒนธรรม–ประวัติศาสตร์ รวมถึงมีทุนทางสังคมและทุนมนุษย์ที่หลากหลาย ทั้งวิถีชีวิตชุมชนชนเผ่าต่าง ๆ และประเพณีพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์

เมื่อวันที่ 21-22 พ.ย. 68 สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) โดย ดร. เบญจมาส โชติทอง ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโครงการและแผนงาน คุณธนิรัตน์ ธนวัฒน์ ผู้จัดการโครงการ คุณทองใบ เวชพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญ และทีมนักวิจัย เข้าร่วมหารือกลุ่มย่อยแลกเปลี่ยนบทเรียนโครงการวิจัยที่ได้รับทุนจาก บพท. กับ ผศ.ดร.กัญลยา มิขะมา ผอ. สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยนครพนม หัวหน้าโครงการฯ ผู้แทนจากเทศบาลเมืองนครพนม และอาจารย์ร่วมดำเนินการโครงการฯ

โครงการเขตโขงนคร มีขอบเขตตลอดแนวถนนเรียบแม่น้ำโขงที่อยู่ในการดูแลของเทศบาลเมืองนครพนม โดยมุ่งเน้น พัฒนาเมืองที่ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมและรากเหง้าของเมือง ซึ่งเป็นการพัฒนาเมืองตามภูมิวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของเมือง ที่จะมาสู่การออกแบบพิพิธภัณฑ์มีชีวิตบนพื้นฐานของอัตลักษณ์ ภูมิลักษณ์ และจิตวิญญาณของเมือง เพื่อเกิดพื้นที่การเรียนรู้ สร้างสรรค์ สร้างทักษะดิจิทัลเพื่อสร้างเสริมการเรียนรู้และเพิ่มมูลค่าธุรกิจชุมชนและกิจกรรมท่องเที่ยวเพื่อเสริมทักษะดิจิทัลให้กับกลุ่มผู้ประกอบการ กลุ่มผู้ด้อยโอกาส กลุ่ม
อาชีพต่างๆ เพื่อการเรียนรู้ส่วนบุคคลและนำมาสู่การต่อยอดด้านอาชีพและรายได้ พัฒนาพื้นที่ต้นแบบเพื่อสร้างกลไกการพัฒนานโยบายเพื่อการเป็นเมืองสร้างสรรค์
ผลสำเร็จจากการวิจัยโครงการ
  • ได้ข้อมูลหรือคู่มือในการบริหารจัดพื้นที่ตามศักยภาพ สถานที่มู(วัด)-สถานที่ท่องเที่ยว-พื้นที่สาธารณะ ซึ่งมอบให้แก่เทศบาลเมืองนครพนม
  • เติมเต็มทักษะดิจิทัลให้กลุ่มอาชีพต่าง ๆ ผู้ประกอบการริมโขงร้านค้าริมโขง-โรงเรียน-สมาคมผู้สูงอายุ-กลุ่มรถบริการสาธารณะหรือ logistics ต่าง ๆ
  • การพัฒนาในเชิงนโยบายในด้านการจัดงานไหลเรือไฟ-ลอยกระทง-เทศกาลใหญ่ๆในเมืองนครพนม รวมถึงการจัดการขยะที่เกิดจากกิจกรรมของสายมู พานบายศรีหรือการแปรรูปขยะศักดิ์สิทธิ์ ให้เป็น Zero Waste
โดยการดำเนินงานโครงการจะเป็นประโยชน์ให้เมืองนครพนมเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ของทุกกลุ่มคนและทุกช่วงวัย และการพัฒนาไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างสรรค์ได้ด้วยกลไกความร่วมมือทั้งจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการในพื้นที่ กลุ่มธุรกิจชุมชน กลุ่มคนหลากหลายอาชีพ