กลุ่มงาน: ขยะชุมชน-ขยะอาหาร
วันแห่งการตระหนักรู้สากลเกี่ยวกับการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร
International Day of Awareness of Food Loss and Waste
อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่สำคัญที่สุดต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ความสามารถในการเข้าถึงอาหารเพิ่มจำนวนมากขึ้นหลังช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตจากเดิมเพียงแค่ผลิตเพื่อบริโภคภายในครัวเรือนเปลี่ยนสู่การผลิตเป็นอุตสาหกรรม ส่งผลให้อาหารมีราคาถูกลงและสามารถเข้าถึงได้ง่าย ในขณะที่ปริมาณอาหารมีมากขึ้น จำนวนขยะอาหารก็เพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน ส่งผลให้โลกต้องเผชิญกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ เนื่องจากอาหารที่ผลิตได้กว่า 1 ใน 3 กลายเป็นขยะอาหาร ปัญหานี้ส่งผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
องค์การสหประชาชาติกำหนดให้วันที่ 29 กันยายน ของทุกปี เป็นวันแห่งการตระหนักรู้สากลเกี่ยวกับการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร (International Day of Awareness of Food Loss and Waste) ซึ่งมีความสำคัญและถือโอกาสที่จะเรียกร้องให้มีการดำเนินงานทั้งภาครัฐตั้งแต่หน่วยงานระดับชาติไปจนถึงในระดับท้องถิ่น ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม นักวิจัย นักวิชาการ ตลอดจนสถาบันการศึกษาได้ร่วมสร้าง
ความตระหนักรู้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดความพยายามและเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร เพื่อให้สอดล้องกับการดำเนินงานของสหประชาชาติ ที่ได้จัดทำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ซึ่งเป้าหมายที่ 12.3 ได้ระบุถึงประเด็นการสูญเสียอาหารและขยะอาหารทั่วโลก และได้ตั้งเป้าไว้ว่าภายในปี ค.ศ. 2030 ขยะอาหารที่เกิดจากการจำหน่ายและการบริโภคทั่วโลกต้องลดลงร้อยละ 50 เพื่อเป็นแนวทางให้แก่ประเทศสมาชิกนำไปปฏิบัติตาม เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบอาหารโลกที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุม ยืดหยุ่นและมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้นโดยไม่ทิ้งใครไวข้างหลัง
การสูญเสียอาหาร (Food Loss): เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต เก็บเกี่ยว แปรรูป และการขนส่ง เช่น พืชผลที่เสียหายจากสภาพอากาศที่แปรปรวน หรือระบบจัดเก็บผลผลิตที่ไม่ดีพอ
ขยะอาหาร (Food waste): อาหารที่ถูกทิ้งหรือเสื่อมสภาพในขั้นตอนการจัดจำหน่าย การบริการ และการบริโภค รวมทั้งส่วนที่กินได้และกินไม่ได้ที่ถูกทิ้งจากการบริโภค โดยไม่รวมบรรจุภัณฑ์อาหาร โดยการจำแนกส่วนที่รับประทานได้และรับประทานไม่ได้ อาจมีความแตกต่างกันในบางพื้นที่ เนื่องจากวัฒนธรรมและค่านิยม การบริโภคที่แตกต่างกัน ขยะอาหารเกิดมาจากอาหารที่คัดถูกทิ้ง อาหารเหลือ และอาหารเสื่อมสภาพ ซึ่งมีลักษณะดังนี้
• อาหารที่ถูกคัดทิ้ง สาเหตุมาจากมีรูปลักษณ์ที่ไม่เป็นที่ต้องการ ตกเกรด ไม่ได้ตามเกณฑ์ ใกล้หมดอายุ เศษวัตถุดิบที่เกิดจากการเตรียมอาหาร
• อาหารเหลือ จากสาเหตุที่มีปริมาณมากเกินไป ชิ้นใหญ่ และรสชาติไม่ถูกปาก
• อาหารเสื่อมสภาพ โดยการเน่าเสียจากสภาพอากาศ การเก็บและรักษาที่ไม่เหมาะสม รวมถึงอาหารที่หมดอายุ
การสูญเสียอาหาร (Food Loss) และขยะอาหาร (Food waste) ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังส่งผลกระทบต่อทุกมิติ ทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ ตลอดจนความมั่นคงทางอาหาร หากขาดการจัดการที่ดี ซึ่งส่งความเดือดร้อนรำคาญและส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สิ้นเปลืองทรัพยากรที่ใช้เพาะปลูก
ทั้งน้ำ พลังงาน และปัจจัยการผลิตอื่นๆ ที่เป็นต้นทุนในการผลิต ปล่อยก๊าซมีเทนที่มีศักยภาพที่ทำให้โลกร้อน รวมถึงเป็นภาระด้านการจัดการขยะและงบประมาณของรัฐ
ผลกระทบของการสูญเสียและขยะอาหาร
ด้านเศรษฐกิจ – มูลค่าอาหารที่สูญเสียทั่วโลกในแต่ละปีสูงถึงหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เกษตรกรสูญเสียรายได้ ขณะที่ผู้บริโภคเสียค่าใช้จ่ายไปโดยเปล่าประโยชน์
ด้านสังคม - ขณะที่อาหารส่วนหนึ่งถูกทิ้งไปกลับมีประชากรหลายร้อยล้านคนที่ประสบภาวะขาดแคลนอาหาร นี่จึงเป็นปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ชัดเจน
ด้านสิ่งแวดล้อม –อาหารที่ถูกทิ้งก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกโดยเฉพาะก๊าซมีเทนจากหลุมฝังกลบ ซึ่งมีศักยภาพทำให้โลกร้อนรุนแรงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 28 เท่านอกจากนี้ยังสิ้นเปลืองทรัพยากรน้ำ ดิน และพลังงานที่ใช้ในการผลิตอาหารแต่ละชิ้น
แนวทางการแก้ไขและการมีส่วนร่วม
ระดับบุคคล
Share: