ปรับเพื่ออยู่ รู้เพื่อรอด กับ TEI: ฝนถล่มฤดูหนาว น้ำหลากหลงฤดู

กลุ่มงาน: การปรับตัว

ปรับเพื่ออยู่ รู้เพื่อรอด กับ TEI ให้ปลอดภัยจาก ฝนถล่มฤดูหนาว น้ำหลากหลงฤดู
ต้อนรับเปิดเทอมภาคการเรียนที่ 2 ปี 2568 ของน้อง ๆ หลายโรงเรียนทั่วไทย ด้วยฝนถล่ม น้ำท่วมขังหลายพื้นที่ ทั้งรวดเร็วและรุนแรง และโซเซียลแห่แชร์ประเด็นนี้พร้อมคำถามว่า ‘ฝนถล่มฤดูหนาว น้ำหลากหลงฤดู’ เกิดอะไรขึ้นกับสภาพอากาศของไทยในปัจจุบัน ?



จากเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 ถึงช่วงเช้าวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 หลายพื้นที่มีปริมาณฝนตกเฉลี่ยมากกว่า 200 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโดยปกติ ซึ่งส่งผลต่อการระบายน้ำในหลายพื้นที่ ที่มีศักยภาพในการระบายน้ำไม่เกิน 50 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง จึงทำให้เกิดน้ำท่วมขังอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งกระทบหนักบริเวณ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ที่มีพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่น และตามต่างจังหวัดโดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใน จ. เชียงใหม่ ที่เกิดน้ำป่าตามมา

ฝนหลงฤดู ? เชื่อมโยงกับ Climate Change
สภาพอากาศแปรปรวน เป็นผลมาจาก Climate Change หรือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงทำให้ไทยและทั่วโลก จะต้องพบเจอกับฤดูกาลนอกตำรา อย่างไรที่ไทยเจออยู่ขณะนี้ คือ ฝนถล่มฤดูหนาว ส่งผลให้เกิดน้ำหลากหลงฤดู โดยสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) ระบุว่า ไทยมีความจำเป็นต้องศึกษาแนวโน้ม โอกาสการก่อตัวของร่องมรสุม และการเกิดพายุ ที่จะส่งผลกระทบให้เกิดฝนถล่มฤดูหนาว น้ำหลากหลงฤดู ซึ่งจากสถิติโดยค่าเฉลี่ย ไทยจะเจอพายุที่มีอิทธิพลทำให้เกิดฝนตกหนักอยู่ที่ 3-4 ลูกต่อปี

พายุไม่ได้เข้าตรง แต่ไทยก็อ่วม?
ค่าเฉลี่ยพายุที่เคลื่อนเข้าไทยโดยตรงอยู่ที่ 3-4 ลูกต่อปี แต่ปี 2568 นี้ (ณ 5 พ.ย.) เรากลับพบว่า ประเทศไทยได้รับผลกระทบทางอ้อม จากพายุที่ก่อตัวในภูมิภาค (เช่น ทะเลจีนใต้) หลายต่อหลายครั้ง ซึ่ง TEI ชี้ว่า ปรากฏการณ์ที่พายุเหล่านี้ (แม้ไม่ได้เคลื่อนเข้าไทย) ส่งอิทธิพลให้เกิด ฝนถล่มฤดูหนาว น้ำหลากหลงฤดู ... มาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ผลกระทบทางตรงที่ส่งผลกับคนไทย คือ น้ำท่วมขังในเมือง กระทบการเดินทางสัญจร เครื่องยนต์ของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้า ได้รับความเสียหาย รถติด และประชาชนต้องเดินลุยน้ำ ที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งจากเหตุการณ์ล่าสุด สะท้อนให้เห็นถึงการเตรียมความพร้อมในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Adaptation) ของไทยที่ยังไม่เพียงพอ

ถึงเวลา ‘ปรับเพื่ออยู่ รู้เพื่อรอด’
TEI ขอเป็นหน่วยงานที่ให้ความสำคัญในการสื่อสารประเด็น การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Adaptation) เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะ ให้คนไทยมีความพร้อม ตามแนวทาง ‘ปรับเพื่ออยู่ รู้เพื่อรอด’ ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ปลอดภัยต่อ Climate Change หรือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามแนวทางแต่ละระดับ ดังนี้

ระดับบุคคล

  • ติดตามพยากรณ์อากาศ การแจ้งเตือนภัยอย่างใกล้ชิดจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
  • อย่าลืมตรวจสอบความแข็งแรงของบ้าน ทำความสะอาดรางน้ำ ท่อระบายน้ำไม่ให้อุดตัน เตรียมกระสอบทราย หรือที่กั้นน้ำหากอยู่ในพื้นที่เสี่ยง
  • จัดเตรียม "ถุงยังชีพฉุกเฉิน" และยกของมีค่า เครื่องใช้ไฟฟ้า ขึ้นที่สูงเมื่อมีการเตือนภัย
  • วางแผนและตรวจสอบเส้นทางก่อนเดินทาง หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง ไม่ขับรถลุยน้ำท่วมสูง
ระดับชุมชนและเมือง
  • จัดทำแผนที่เสี่ยงภัย (Risk Map) ของชุมชน เพื่อให้รู้ถึงพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม น้ำหลาก
  • สร้างระบบสื่อสารเตือนภัยล่วงหน้าภายในชุมชน
  • ดูแลโครงสร้างพื้นฐาน ขุดลอกคูคลอง ทางระบายน้ำอย่างสม่ำเสมอ
  • พัฒนา "เมืองฟองน้ำ" (Sponge City) โดยการเพิ่มพื้นที่สีเขียว สวนสาธารณะ และพื้นที่แก้มลิงขนาดเล็กเพื่อช่วยชะลอและดูดซับน้ำ
  • ออกแบบผังเมืองโดยคำนึงถึงพื้นที่รับน้ำ (Flood Plain) หลีกเลี่ยงการอนุญาตให้ก่อสร้างขวางทางน้ำ
  • จัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัยหรือศูนย์พักพิงชั่วคราวในชุมชน และมีการซักซ้อมแผนอพยพหนีภัยเป็นประจำ
ระดับประเทศ
  • สนับสนุนงบประมาณเพื่อการวิจัยและพัฒนาระบบคาดการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว (Extreme Weather) ให้มีความแม่นยำสูง
  • บริหารจัดการน้ำในเขื่อนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยคำนึงถึงการกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามแล้ง และการพร่องน้ำเพื่อรองรับพายุและฝนตกหนักนอกฤดู
  • ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่เพื่อป้องกันและรับมือ (เช่น อุโมงค์ระบายน้ำ ระบบผันน้ำ การเสริมความแข็งแรงของแนวชายฝั่ง)
  • บูรณาการแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั้ง 6 สาขา (แผน NAP) เข้าไปในทุกยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ
  • พัฒนากลไกการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัยให้เป็นระบบ รวดเร็ว และเป็นธรรม เพื่อให้ประชาชนฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติได้โดยเร็วที่สุด
  • การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Adaptation) ในยุคที่ฝนถล่มฤดูหนาว น้ำหลากหลงฤดู จึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอด


TEI ชวนคนไทยมาปรับ เปลี่ยน เพื่อสร้างสังคมที่มีความปลอดภัยจากฝนหลงฤดู ตามแนวทาง ‘ปรับเพื่ออยู่ รู้เพื่อรอด’